เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี? คู่มือการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศสำหรับปี 2567

เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี

มลพิษทางอากาศ เป็นปัญหาร้ายแรงที่ส่งผลต่อสุขภาพของเราโดยตรง ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 กลายเป็นภัยคุกคามที่หลายคนกังวล เครื่องฟอกอากาศจึงกลายเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้เราสามารถหายใจอากาศบริสุทธิ์ภายในบ้านได้

แต่เครื่องฟอกอากาศ มีหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายรุ่น แต่ละรุ่นก็มีคุณสมบัติและราคาที่แตกต่างกัน บทความนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ และเครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี ในปี 2567

วิธีการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี?

  1. ขนาดพื้นที่: เลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ห้อง โดยทั่วไปเครื่องฟอกอากาศจะระบุพื้นที่การใช้งานไว้บนตัวเครื่อง
  2. ประสิทธิภาพการกรอง: เลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพการกรองฝุ่นละออง PM 2.5 ได้อย่างน้อย 99.97%
  3. ฟังก์ชั่นการใช้งาน: เครื่องฟอกอากาศบางรุ่นมีฟังก์ชั่นเพิ่มเติม เช่น ระบบฆ่าเชื้อโรค ระบบกำจัดกลิ่น ระบบควบคุมความชื้น Wi-Fi
  4. ราคา: เครื่องฟอกอากาศมีราคาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ตั้งงบประมาณก่อนซื้อ
  5. บริการหลังการขาย: เลือกร้านค้าที่มีบริการหลังการขายที่ดี เผื่อกรณีเครื่องมีปัญหา

เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี? ในปี 2567

จากการทดสอบและรีวิวจากหลายแหล่ง เครื่องฟอกอากาศ 5 ยี่ห้อดังต่อไปนี้ ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพดี

  • Sharp FP-J30TA: โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ กรองฝุ่นละออง PM 2.5 ฆ่าเชื้อโรค ดีไซน์สวย
  • Hatari HT-AP12: ราคาประหยัด กรองฝุ่นละออง PM 2.5 ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดเล็กถึงปานกลาง
  • MITSUTA Air Purifier MAP450: ดีไซน์ล้ำสมัย กรองฝุ่นละออง PM 2.5 ควบคุมผ่าน Wi-Fi เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่
  • Xiaomi Mi Air Purifier 2s: ราคาไม่แพง กรองฝุ่นละออง PM 2.5 เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ดีไซน์มินิมอล
  • Toshiba CAF-G2(W)A: เงียบ กรองฝุ่นละออง PM 2.5 ประหยัดไฟ เหมาะสำหรับห้องนอน

ทั้งนี้ การเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ ควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ขนาดพื้นที่ งบประมาณ ฟังก์ชั่นการใช้งาน และความชอบส่วนตัว

หวังว่า บทความนี้จะเป็นประโยชน์ ช่วยให้ท่านเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ ที่เหมาะกับความต้องการ และมีสุขภาพที่ดีขึ้น